วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เเผนการตลาด ธุรกิจไมโครเเฟรนไชส์


เเผนการตลาด ธุรกิจไมโครเเฟรนไชส์

รายได้ของคุณมาจากไหน?

โหย ตัวหนังสือเยอะเเยะไปหมด "เห็นเเล้วขี้เกียจอ่าน"

ผมอยากจะบอกเพื่อนๆว่า "คุณเรียนหนังสืออ่านหนังสือ เเละทำงานเพื่อเงินมามากเเล้ว ต่อไปนี้ ให้เงินทำงาน เเทนคุณบ้าง"

มีเสียงสอบถามมามากเหลือเกินว่า อยากเห็นภาพรวมของการทำธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ โดยเฉพาะ กิฟฟารีน (Giffarine) ว่ารายได้มาจากไหนอย่างไร ใครหลายๆคนมัก พูดว่า ธุรกิจเครือข่าย หรือ สมัยก่อนเรียกว่าธุรกิจขายตรง นั้นเป็นธุรกิจขายฝัน....หลายคนไม่ชอบง้อ หลายคนเกลียดการเร่ขาย หลายคนเกลียดการดูผู้อื่นดู ถูก หรือ ถูกล้อเลียนว่า "กิฟฟารีนมาเเล้วค่ะ" "มีสทีนมาเเล้วค่ะ" หลายคน มักสงสัย ว่า ธุรกิจนี้จะสามารถ สร้างรายได้อย่างมั่นคงจริงหรือ………

ผมขอตอบเลยนะครับ ว่า ได้จริงแท้แน่นอน นั่งยันยืนยันนอน ยัน….เเละ การดำเนินธุรกิจ กิฟฟารีนที่เเท้ จริงเเล้ว ถ้าคุณศึกษาอย่างจริงจัง จะพบ ว่า ภาพที่หลายเข้าใจ นั้นเป็น การตรึกนึก คิดกันเอาเอง เพราะถ้าทุกคนเข้าใจ อย่างเเท้จริงเเล้ว ทุกคนคงจะรวยกันหมด ซึ่ง คงเป็นไปไม่ได้

เอาหล่ะครับ ผมจะค่อยๆอธิบายให้ฟังพร้อมคิดตามกันไป
ในการทำธุรกิจเครือข่ายกิฟฟารีน นี้ หรือ ที่อื่นๆบริษัทใดก็เเล้วเเต่ ในปัจจุบัน เราสามารถ ทำได้ 2 แบบ คือ แบบปกติธรรมดา ทั่วไป เหมือนขายตรง คือ offline ส่วนแบบที่สองคือ ทำงานบนอินเตอร์เนต(online) ด้วยการอาศัยเทคโนโลยีเครือข่ายสร้างเครือข่าย อันชาญฉลาดของเพื่อนๆเอง โดยไม่กระทบงานประจำ

ในการเริ่มต้นทำธุรกิจนี้นั้น ง่ายๆ เริ่มที่ offline ก่อน คือ การขายให้ตัวเพื่อนๆเองก่อน

เอ้า…เพื่อนๆอาจเริ่มสงสัยแล้วว่า เริ่มต้นก็ให้ซื้อเสียแล้ว แล้วรายได้จะมาจากไหนหล่ะ…..?

ในการขายให้ตัวเองก่อนนั้น เพื่อ ให้ตัวเราเองนั้นได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ความต้องการ ของคนอื่น หรือ ลูกค้า อย่างที่ guru ธุรกิจ ทั้งหลายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ที่ใดทีความต้องการ ที่นั่นมีเงินวางรออยู่”

ในช่วงแรก เราเรียกว่า ช่วงศึกษาธุรกิจ ในระหว่างศึกษาความต้องการนี้ เพื่อนๆ ก็ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ คู่มือต่างๆของบริษัท สำหรับกิฟฟารีน นั้นจะมีคู่มือเล่มสีน้ำเงิน ครับ อ่านกันเข้าไปครับ ผมอ่านจนเปื่อย อิอิ อ่านให้เข้าใจ ไม่เข้าใจถามที่ปรึกษาธุรกิจของคุณครับ

ในระหว่างศึกษาแผนต่างๆนี้ เพื่อนๆอาจเริ่มทดลองและซื้อสินค้ากิฟฟารีน มาเพื่อใช้แทนผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดที่คุณเคยใช้เช่นคุณอาจจะเริ่มจากการเปลี่ยนแปรงสีฟัน เมื่อแปรงอันเดิมของคุณพังหรือสินค้าสำหรับใช้ในครัวเรือน เมื่อสินค้าเดิมคุณหมดลองเปลี่ยนมาใช้สินค้าของกิฟฟารีนดู และในระหว่างนั้น คุณก็ศึกษาแผนธุรกิจกิฟฟารีน วิธีการ และกระบวนการทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต……เเต่ต่อไปศึกษาการเพิ่มช่องทาง สร้างรายได้ เเบบไม่ผิด กฏพรบ ขายตรง เเละลิขสิทธิ์

ในช่วงทดลองสินค้าเพื่อนๆอาจถามที่ปรึกษาของเพื่อนๆดูว่า สินค้าไหนน่าสนใจ สินค้าอันไหนดี ก่อนก็ได้ทั้งนี้เพื่อ ลดความเสี่ยง เจอสินค้าไม่ถูกใจ เพราะสินค้ากว่าสองพันรายการ ผมมั่นใจว่า คงจะไม่มีสินค้าทุกอันที่ทำให้ทุกคนถูกใจได้แน่….

และเมื่อ สิ่งไหนถูกใจ ก็ อาจแบ่งให้สมาชิกในบ้านลองใช้ หรือ แนะนำเพื่อนให้ใช้ แต่ไม่ใช่ครั้งแรกปุ๊บ ก็จะขายเขาให้ได้เลยนะครับ เด๋วเพื่อนของคุณปฏิเสธขึ้นมาจะพาลเสียกำลังใจไปป่าวๆ

เมื่อเพื่อนๆเริ่มสร้างองค์กรเครือข่ายทั้งออฟไลน์ และ บนอินเตอร์เน็ต...หลายคนอาจจะทดลองสินค้าครั้งแรกแล้วไม่ถูกใจบ้างเเต่มันไม่ได้หมายสินค้าไม่ดี เพราะความชอบของเเต่ละคนเเตกต่างกัน ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจกันก่อน

การเเนะนำบอกต่อ อาจจะเป็น การเชิญชวนคนรู้จักโดยตรง โดยการส่ง mail รายละเอียดให้กับเพื่อนของคุณทราบโดยการโพสตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ การวางแบนเนอร์โฆษณาส่วนตัวของคุณบนเว็บไซค์และอื่นๆอีกหลายวิธีที่เพื่อนๆต้องเรียนรู้ต่อไปในการทำตลาดออนไลน์ นั้นมีข้อดีหลายประการ แต่เอาประการที่เด่นชัดคือ เพื่อนๆไม่จำเป็นต้องวิ่งรอกออกไปสาธิตขายสินค้า ตามบ้านใคร ไม่ต้องบรรยายแผนธุรกิจให้ใครฟัง …..เพียงสิ่งเเรกที่คุณต้องลงทุน คือ เงินค่าสมัครสมาชิกกิฟฟารีน 160บาท เเละ เวลาของคุณที่ต้องใช้ศึกษาหาความรู้ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ตนเองจะลงมือทำเท่านั้น

หลายคนเมื่อสมัครสมาชิกเเล้ว รีบวิ่งไป หาสมาชิกใหม่ทันที ผมอยากจะบอกเพื่อนๆว่า การทำธุรกิจเครือข่ายนั้นไม่ใช่ระบบเเชร์ลูกโซ่ ที่จะต้องรีบวิ่งหาสมาชิก ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เเต่ตรงกันข้าม ถ้าเพื่อนๆเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดีเเล้ว เเทบจะเรียกได้ว่า สมาชิกหรือลูกค้าจะมาหาคุณเอง

มาดูตัวอย่างกันต่อครับ ว่ารายได้จากเครือข่ายผู้บริโภค มาจากไหน

สมมุติว่าเพื่อนๆสามารถหาสมาชิกได้แค่ 5 คน ในเดือนแรก และสมาชิกใหม่แต่ละคนไปซื้อสินค้าใช้จำนวน 800 คะแนน(pv) หรือประมาณ 800-1,000 บาท ตัวอย่างวิธีการคิดคะแนน หรือคิดเงินนั่นเอง จะคิดจากคะแนนส่วนตัวของคุณ รวมคนทั้งคนที่อยู่ภายใต้คุณทั้งหมด นั่นคือในเดือนนั้นคุณจะมียอดการบริโภคจาก องค์กรธุรกิจ 4,200 คะแนนPV ( 6 คน ๆ ละ 800 คะแนน)ถ้าเป็นเช่นนี้ในเดือนแรก คุณจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง bronze star (ยอดธุรกิจเกิน 1,500 คะแนน) และยอดส่วนที่เกิน 1,500 คะแนนในเดือนแรกนี้จะคูณด้วย 10% เป็นรายได้ให้กับคุณ เช่นนั้นในเดือนแรกคุณจะมีรายได้ โดยประมาณ (4,200-1,500)x10% = 270 บาท (ยอดคะแนน ที่ขึ้นตำแหน่งในเดือนแรก 1500 คะแนนแรก ไม่นำมาคิดคอมมิชชั่น.... แต่ในเดือนถัดไป จะคิดให้ตั้งแต่ คะแนนแรกเลย ครับ ) เห็นรายได้เกิดขึ้นแล้วใช่ไหมครับ จากคุณแต่ละคนซื้อสินค้าใช้ บางคนอาจเถียงว่า นั่นมันรายได้ที่ไหนกันหล่ะ จ่ายๆไป 800 บาทได้เงินคืนมาแค่ 270 บาทเอง แล้วมันจะเรียกว่ารายได้ ได้อย่างไร

นั่นสิครับ…….ผมก็คิดเหมือนกับ เพื่อนๆนั่นแหละ………เอ้ย…!!!!!

เรามาดูข้อเท็จจริงกันดีกว่า ถ้าของราคาทั่วไปในคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน เราซื้อ800 บาท เดือนถัดไป เราได้เงินคืน 270 บาท แต่ปกติเราไปซื้อของเดือนละหลายร้อย หลายพัน ตามห้าง ร้านค้าใหญ่ ๆแต่ไม่ได้คืนสักบาท ไม่เห็นว่าอะไรสักคำ ในความคิดเห็นผม นั้น ความจริงแล้ว ไม่ชอบคำว่า ไม่ใช่งานขาย เพียงซื้อใช้ ก็มีรายได้แล้ว แต่สำหรับกิฟฟารีน ผมยอมรับครับว่า มันเป็นความจริงอยู่ครับ

ทำไมผมถึงบอกว่าเห็นด้วยกับ คำพูดของสมาชิกกิฟฟารีนส่วนใหญ่ที่มักพูดว่า “ไม่ต้องขายเพียง ซื้อใช้ก็มีรายได้แล้ว”เพราะธุรกิจเครือข่ายหลายๆแห่งก็พูดแบบนี้เช่นเดียวกัน

ผมขอตอบตามตรงเลยครับว่า ราคาที่เราจ่ายไป ให้กับสินค้าจากบริษัทพวกนั้นมันสูงเกินความจริงความจำเป็นนะซิ เพราะถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว มันก็ไม่ต่างอะไรกับ เอา อัฐตา ไปซื้อ ขนมยาย

ผมขอยกตัวอย่าง ง่ายๆ เอาแปรงสีฟันกิฟฟารีน ดีกว่า แปรงสีฟันกิฟฟารีน คุณภาพสูงเมื่อเทียบกับ ยี่ห้อดังๆในท้องตลาด ที่จะ ขายกันอยู่ในราคา ด้ามละ 40-80 บาท แต่ กิฟฟารีน ขายด้ามคู่ละ 56 บาท ตกด้ามละ 28 บาท ได้เงินคืนอีก10% ได้ปันผลกลับมาอีก 2.8 บาท แล้วจะให้ไม่เรียกว่า รายได้ได้อย่างไร

ต่อครับ

270 บาท นี่เพียงคิดแค่เดือนแรกเท่านั้นเองครับถ้า เพื่อนๆ ลองจินตนาการถึงการสร้างองค์กรเครือข่ายผ่านอินเตอร์เน็ตดูสิครับ คิดง่าย ๆสมมุตว่ามีคนเข้าร่วมธุรกิจกับคุณ เอาแบบว่าแย่แสนแย่ที่สุดนะ3 คนต่อเดือน ใน 1 ปีคุณมีสมาชิกธุรกิจทั้งหมด 36 คน และในเดือนที่ 12 นี้เอง ทุกคนซื้อของใช้คนละ 800 บาท (ซื้อเท่าเดิมละกัน) ลองคำนวณเล่น ๆ ครับ สมมุติให้เดือนแรกเพื่อนๆเป็น BS บอร์นสตาร์ ซื้อเอง 1,500pv และโดยมีสมาชิกเดือนแรก 3 คน ซื้อคนละ 800 บาทหรือ 800 PV เพื่อนๆจะได้ 10%= 2400X10%=240 บาท
เดือนที่สอง อีกสาม เป็น 6 คน =4800x10%= 480บาท
เดือนที่สาม เป็น 9= 7200x10% = 720 บาท
เดือนที่ สี่ เป็น 12= 960 บาท
เดือนที่ 5 เป็น 15= 12,000=> 9000x10%=900+(3000x15%)= 450 => (900+450)= 1350 บาท
เดือนที่ 6 เป็น 18= 14,400x15%= 2160 บาท
เดือนที 7 เป็น 21คน =2520 บาท
เดือนที่ 8 เป็น 24 คน = 2880 บาท
เดือนที่ 9 เป็น 27 คน =3240 บาท
เดือนที่ 10 เป็น 30 คน =24,000x15%= 3600 บาท * เดือนนี้ เพื่อนๆขาดอีก 6000pv เท่านั้น เพื่อขึ้นตำแหน่งผู้บริหารต่อไปเพื่อ จะได้ 25% คอมมิสชั่นและโบนัส สิทธิอื่นๆอีกมากมาย
เดือนที่ 11 สมมุติว่า เป็นผู้บริหารกลุ่มแล้ว มีสมาชิก อีก3 เป็น 33 คน = 6600 บาท
เดือนที่ 12 ยอดคะแนนทั้งหมด36x800 คะแนน = 28,800 x 25% คะแนน = 7200 บาท
เห็นไหมว่า อย่างน้อยๆเพื่อนกำไรแล้ว ทั้งปี =( 28,350)บาท แต่ เดือนที่ 11 คุณตัดสินใจ โป๊ะคะแนนเพื่อขึ้นตำแหน่ง เพราะไม่ยอมทำงานเพิ่มขึ้น =28,350-6000=22,350 บาท
คุณได้ใช้สินค้า ฟรี แถมมีกำไรอีก ...22,350 บาทพร้อมทั้งประกันตลอดทั้งปี ทั้งนี้สมาชิกทั้งหมด คิดจากคุณทำเพียงคนเดียวสมาชิกไม่ยอมสร้างเครือข่ายเพิ่มเลย ตลอดตั้งแต่ต้นปี บางคนถึงกับส่ายหัว โห !!! ใช้เวลาตั้ง 1 ปี กว่าจะ22,350 บาท ....
ผมขอถามกลับว่า กับการที่เราซื้อสินค้าตามที่ต่าง ๆ มากี่ปีแล้ว แล้วเราเคยได้คืนไหม?

เพื่อนๆอาจจะ ให้เหตุผลสวนกลับทันควัน ว่า "ก็ที่ห้างเขา ลดราคาเลย นี่"…..
ก็ต้องถาม กลับอีกว่า แล้วกิฟฟารีนลดให้สมาชิกทันทีหรือไม่ กิฟฟารีนให้ประกันคุณด้วยหรือป่าว? เห็นหนทางรายได้ไหมครับ

ลอง ๆสร้างองค์กรเครือข่ายของคุณดูสิครับ ... ไม่แน่หรอกครับ อีกหนึ่งปีข้างหน้าคุณอาจจะมีเงินโอนเข้าบัญชีเดือนละเป็นหมื่นๆก็ได้ จากเอาใจใส่ของคุณ

ในทุกธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่เพื่อนๆจำเป็นต้องเอาใจใส่ดูแล มันเช่นกัน ซึ่งเป็นหนทางสนับสนุนสู่ความสำเร็จของคุณ คุณอาจจะต้องลงทุนเพิ่มในการทำเว็บไซด์ของตัวเอง ทำในส่วนของการโฆษณาการตลาด

แต่ อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้เพื่อนๆควร มีเว็บไซด์ของตัวเอง เป็นการเพิ่มศักยภาพ และความรวดเร็ว สู่ความสำเร็จของเพื่อนๆเองเช่นกัน และแน่นอนครับ ขึ้นชื่อว่าธุรกิจ คุณต้องลงทุน ...... ในการลงทุนทาง ออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันราคาถูกมาก ซึ่งแม้แต่เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวส้มตำยังต้องใช้ เงินทุนและระยะเวลานานกว่า จึงจะเกิดรายได้ ...
จากตัวอย่างข้างต้น เเสดงให้เห็นเเค่รายได้จากการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค อย่างเรียบง่าย ดังนั้น รายได้ย่อมเกิดช้าไปบ้าง ซึ่งในความเป็นจริงเเล้ว หนึ่งปี ถ้า มีสมาชิกเพียงเเค่นี้ ก็ ต้องพิจารณาตัวเอง กันหน่อยเเล้วหล่ะครับ นอกจากนี้ ยังมีรายได้อืนๆ นอกเหนือจากการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค กิฟฟารีน
รายได้ที่ว่านี้อาจมาจากการขายสินค้า รายได้จาก Affilate PROGRAM, รายได้จาก Adsense เเละอื่นๆ รายได้ในส่วนต่างๆเหล่านี้ เรียกว่าไม่เเพ้รายได้จาก การที่เพื่อนๆทำธุรกิจ กิฟฟารีน เลย
ในทำนองเดียวกัน การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ธุรกิจของคุณก็หลีกเลื่ยงไม่ได้เช่นกัน ......

"เรามิได้ขายฝันเเต่เรากำลังพูดถึงความเป็นจริง"

ไม่มีความคิดเห็น: